Header

mark

แพทย์ PRINC Group แนะนำแม่มือใหม่ต้องรู้!"นมแม่แช่แข็ง" จัดการผิด ชีวิตลูกเสี่ยง

05 สิงหาคม 2568

blog

การปั๊มนมสต็อก คือทางเลือกที่คุณแม่ยุคใหม่นิยมใช้ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับประโยชน์จากนมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในยามที่คุณแม่ไม่สามารถอยู่ป้อนนมได้ตลอดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่า การจัดการนมแม่แช่แข็งที่ผิดวิธี อาจทำให้คุณค่าทางโภชนาการของนมลดลง หรือร้ายแรงกว่านั้นคือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อยได้! นี่คือสิ่งที่แม่มือใหม่ทุกคนต้องใส่ใจ ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด!

แพทย์หญิงสุมิตรา พร้อมทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 2

แพทย์หญิงสุมิตรา อวิรุทธ์นันท์ กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 2 แนะนำวิธีการจัดการ “นมแม่แช่แข็ง” ที่คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพลูกน้อยให้เติบโต แข็งแรงสมวัย
 

1. "อุณหภูมิและเวลา" กุญแจสำคัญในการเก็บรักษานมแม่
การจัดเก็บนมแม่ไม่ใช่แค่การแช่เย็นหรือแช่แข็งเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงอุณหภูมิและระยะเวลาอย่างเคร่งครัด เพราะสารอาหารและภูมิคุ้มกันในนมแม่มีคุณสมบัติที่เปราะบาง การเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้คุณค่าเหล่านี้สูญสลายไปโดยไม่รู้ตัว

•    อุณหภูมิห้อง (ไม่เกิน 25°C): เก็บได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง
•    กระเป๋าเก็บความเย็นพร้อมเจลเก็บความเย็น: เก็บได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
•    ตู้เย็นช่องธรรมดา (0-4°C): เก็บได้ไม่เกิน 4 วัน (เหมาะสำหรับนมที่จะใช้ในไม่กี่วันข้างหน้า)
•    ช่องแช่แข็งในตู้เย็นประตูเดียว: เก็บได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์
•    ช่องแช่แข็งในตู้เย็น 2 ประตู: เก็บได้ไม่เกิน 3-6 เดือน
•    ตู้แช่แข็งแบบ Deep Freezer (อุณหภูมิคงที่ -18°C หรือต่ำกว่า): เก็บได้ไม่เกิน 6-12 เดือน

ข้อควรจำอย่างยิ่ง: ทุกครั้งที่ปั๊มนม ควร ติดฉลากระบุวันที่ปั๊มนม ไว้ที่ถุงหรือขวดเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าได้นำนมที่เก่าที่สุดออกมาใช้ก่อน (ระบบ First In, First Out - FIFO) เพื่อป้องกันนมหมดอายุและคงคุณค่าสูงสุด
 

2. "ละลายผิด...สารอาหารพัง" ห้ามใช้ไมโครเวฟเด็ดขาด!
หลายคนอาจคิดว่าการละลายนมแม่แช่แข็งก็เหมือนการละลายอาหารทั่วไป แต่สำหรับนมแม่แล้ว เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก! การละลายที่ผิดวิธี ไม่เพียงแต่ทำลายสารอาหารสำคัญ แต่ยังอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตจนเป็นอันตรายต่อลูกได้

•    วิธีที่ปลอดภัยที่สุด: ย้ายนมจากช่องแช่แข็งมาพักไว้ใน ช่องธรรมดาของตู้เย็น ล่วงหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง หรือ 1 คืน
•    วิธีเร่งด่วนที่ปลอดภัย: แช่ถุงหรือขวดนมในภาชนะที่มี น้ำเย็น ก่อน แล้วค่อยๆ เติม น้ำอุ่น ลงไปจนน้ำนมละลาย
•    ข้อห้ามตายตัว!: ห้ามละลายในน้ำร้อนจัด หรือนำเข้าไมโครเวฟเด็ดขาด! ความร้อนสูงและรวดเร็วจะทำลายโปรตีนและสารอาหารสำคัญในนมแม่ และอาจทำให้เกิด "จุดร้อน" ที่เป็นอันตรายต่อปากของลูกน้อยได้
•    อย่าเขย่าแรงๆ: เมื่อนมละลายแล้ว อาจเห็นการแยกชั้นของไขมันและน้ำนม ให้ค่อยๆ หมุนหรือแกว่งถุง/ขวดนมเบาๆ เพื่อให้นมเข้ากัน ไม่ควรเขย่าแรงๆ เพราะอาจทำให้โครงสร้างไขมันเสียไป


3. "อุ่นพออุ่น" ก่อนป้อนลูก
เมื่อนมละลายแล้ว หากลูกน้อยชอบนมที่อุ่นขึ้นอีกนิด ก็ต้องมีเทคนิคการอุ่นที่ถูกต้องเช่นกัน

•    แช่ในน้ำอุ่น: ใช้วิธีแช่ถุงหรือขวดนมในภาชนะที่มีน้ำอุ่น (ไม่ใช่น้ำร้อนจัด) หรือใช้เครื่องอุ่นนมโดยเฉพาะ
•    ทดสอบอุณหภูมิเสมอ: ก่อนป้อนลูก ให้ หยดนม 2-3 หยดที่หลังมือ เพื่อทดสอบอุณหภูมิ นมควรจะรู้สึกอุ่นๆ ไม่ร้อนจัดเด็ดขาด
 

4. ข้อควรระวังที่คุณแม่ "ต้องไม่ละเลย"
นอกจากการเก็บรักษา ละลาย และอุ่นนมแล้ว ยังมีข้อควรระวังสำคัญอื่นๆ ที่แม่มือใหม่มักจะมองข้าม ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของลูกน้อยได้:

•    ห้ามแช่แข็งซ้ำ!: เมื่อนมละลายแล้ว ห้ามนำกลับไปแช่แข็งซ้ำเด็ดขาด! ต้องใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมงหากเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือภายใน 2-4 ชั่วโมงหากเก็บไว้นอกตู้เย็นที่อุณหภูมิห้อง
•    นมเหลือต้องทิ้ง!: หากลูกดูดนมจากขวดแล้วเหลือ ควรทิ้งทันที ไม่ควรเก็บไว้ให้ลูกกินต่อในมื้อหน้า เพราะอาจมีแบคทีเรียปนเปื้อนจากปากลูกแล้ว
•    เก็บปริมาณน้อยๆ: ควรเก็บนมเป็นปริมาณน้อยๆ ในแต่ละถุง/ขวด (เช่น 60-120 มล.) เพื่อลดการเหลือทิ้ง และง่ายต่อการละลายตามปริมาณที่ลูกกินในแต่ละมื้อ
•    กลิ่นหืนของนมแม่: บางครั้งนมแม่ที่ละลายแล้วอาจมีกลิ่นหืนคล้ายสบู่หรือโลหะ ซึ่งเกิดจากเอนไซม์ไลเปส (Lipase) หากลูกยังกินได้ปกติก็ไม่เป็นอันตราย แต่หากลูกไม่ยอมกิน อาจพิจารณาลดระยะเวลาในการเก็บสต็อก หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
 


อย่าลืมว่า นมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย การจัดการที่ถูกต้องคือหัวใจสำคัญในการรักษาสารอาหารและภูมิคุ้มกันอันล้ำค่าไว้ให้ลูกของคุณ! คุณแม่มือใหม่ทุกท่านจึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก
 


ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและเคล็ดลับสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กโรงพยาบาล PRINC Group หรือสนใจรับบริการและปรึกษาปัญหาสุขภาพสำหรับคุณแม่และลูกน้อยได้ที่โรงพยาบาลในเครือพริ้นซ์ใกล้บ้าน สายด่วนสุขภาพ โทร 1208

บทความสุขภาพอื่น ๆ

บทความทางการแพทย์

01 กันยายน 2568

ศรีสะเกษมีแล้ว "ศูนย์มะเร็งแห่งแรก" ลงทุนเครื่องฉายรังสี 100 ล้าน พร้อมดูแลผู้ป่วยทุกสิทธิ ครอบคลุมรัฐบาล-เอกชน

"โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ เปิดศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาแห่งแรกในจังหวัด พร้อมเทคโนโลยี Vital Beam และรองรับสิทธิการรักษาทุกสิทธิ"

บทความทางการแพทย์

08 กันยายน 2568

Blogger สายเที่ยว สายรีวิวต้องรู้! "อันตรายจากแสงแดด" เตรียมผิวให้พร้อม ลดเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

"ภัยร้ายจากแสงแดดอาจก่อมะเร็งผิวหนังได้ รู้วิธีป้องกัน เลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม และสังเกตสัญญาณเตือน เพื่อสุขภาพผิวที่ปลอดภัย"

ข่าวสุขภาพ

12 สิงหาคม 2568

“โรคพิษสุนัขบ้า” ระบาดในสมุทรปราการ ภัยใกล้ตัวที่ต้องระวัง

จากกรณีพบการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้ประชาชนหลายท่านเกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของพี่น้องประชาชน ทีมแพทย์จากเครือ PRINC Group จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและคำแนะนำเพื่อป้องกันตนเองและคนในครอบครัวให้ห่างไกลจากโรคร้ายนี้