Header

mark

‘ปอดอุดกั้นเรื้อรัง’ รักษาหายขาดไม่ได้ แต่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ช่วยป้องกัน-ฟื้นฟูได้

28 มีนาคม 2567

avatar เขียนโดย : นพ.เฉลิมพล รัตนอุดมวรรณา, รพ.พิษณุเวช

blog

‘โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง’ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มของโรคปอดอักเสบเรื้อรังที่ถูกตรวจวินิจฉัยพบได้บ่อย และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม โรคดังกล่าว ยังไม่เป็นที่ตระหนักในวงกว้างในสังคมไทย วันนี้ เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จึงอยากจะมาแบ่งปันเนื้อหาสาระดี ๆ เกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ให้ทุกคนได้ทราบกัน

ปอดอุดกั้นเรื้อรัง คืออะไร ?

ปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดมาจากการอักเสบหรือเสียหายของ หลอดลม เนื้อปอด และหลอดเลือดปอด อันเนื่องมาจากการสูดดมแก๊สหรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้หลอดลมค่อย ๆ ตีบลง หรือถูกอุดกั้น โดยไม่อาจฟื้นคืนสู่สภาพปกติได้อีก โดยกลุ่มโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง สามารถแยกออกได้เป็นโรคย่อย ๆ ได้แก่ โรคถุงลมโป่งพอง และโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสองโรคที่มักถูกตรวจวินิจฉัยพบร่วมกัน ตลอดจนโรคหอบหืด และโรคหลอดลมพอง

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรทั่วโลก

 

ปอดอุดกั้นเรื้อรัง มีอาการอย่างไร ?

ผู้ป่วยมักไม่มีอาการแสดงในระยะเริ่มแรกของโรค แต่จะเริ่มมีอาการที่สังเกตได้ เมื่อปอดถูกทำลายมากขึ้น โดยอาการที่เป็นสัญญาณของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ได้แก่:

  • อาการไอเรื้อรัง อาจรุนแรงถึงขั้น ไอเป็นเลือด
  • มีเสมหะมาก โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน
  • รู้สึกเหนื่อยหอบ หมดเรี่ยวแรง
  • หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด แน่นหรือเจ็บหน้าอก
  • ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจบ่อย ๆ
  • อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปากและเล็บเปลี่ยนเป็นสีม่วง

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง สามารถป้องกันได้ด้วยการไม่สูบบุหรี่

 

เมื่ออาการของโรครุนแรงขึ้น ผู้ป่วยจะมีน้ำหนักที่ลดลงอย่างมาก มีอาการเหนื่อยหอบมากจนไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ และในระยะท้ายของโรค มักพบการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ภาวะหายใจวาย และหัวใจด้านขวาล้มเหลว

ปอดอุดกั้นเรื้อรัง รักษาได้อย่างไร ?

‘โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้’

 

อย่างไรก็ตาม เราสามารถชะลอการดำเนินโรค บรรเทาอาการของโรค ตลอดจนป้องกันและรักษาภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ โดยวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ขึ้น ได้แก่:

  • เลิกสูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงมลพิษในอากาศ
  • รักษาด้วยยา เพื่อบรรเทาอาการ ลดการกำเริบ และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย ได้แก่ ยาขยายหลอดลม ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดสูด และยาปฏิชีวนะ เพื่อลดอาการติดเชื้อ
  • การรักษาด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่น การบำบัดด้วยออกซิเจนระยะยาว การฟื้นฟูสมรรถภาพปอดด้วยกายภาพบำบัด การดูแลโภชนาการ และการดูแลสภาพอารมณ์และจิตใจของผู้ป่วย
  • การผ่าตัด ในกรณีที่การรักษาด้วยยาและวิธีอื่น ๆ ไม่ได้ผล

ปรับพฤติกรรม ป้องกันโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังได้

‘โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง’ สามารถป้องกันได้ด้วยการไม่สูบบุหรี่ เลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่มือสอง ตลอดจนป้องกันตัวเองจากมลพิษในอากาศและละอองสารเคมีต่าง ๆ และการตรวจสุขภาพปอดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

 

บทความโดย : นพ.เฉลิมพล รัตนอุดมวรรณา, รพ.พิษณุเวช

ข้อมูล ณ ต.ค.66

บทความสุขภาพอื่น ๆ

บทความประชาสัมพันธ์

Healthcare Ecommerce  สู่ธุรกิจสุขภาพ
Healthcare Ecommerce เข้าสู่การปรับตัวของธุรกิจสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซ (Ecommerce) ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน และอุตสาหกรรมหนึ่งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วคือ Healthcare Ecommerce หรือการบริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่มองหาความสะดวกสบายและการเข้าถึงบริการสุขภาพที่รวดเร็วและปลอดภัย

บทความทางการแพทย์

08 สิงหาคม 2568

“ภาวะ Infodemic” พฤติกรรมจากการเสพข่าวมากเกินขนาด เช็กด่วน! คุณเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงหรือไม่?

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดยั้งผ่านโซเชียลมีเดีย การรับรู้ข่าวสารอาจกลายเป็นดาบสองคมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราโดยไม่รู้ตัว ปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกว่า “Infodemic” หรือ “โรคระบาดข่าวสาร” เกิดจากการผสมของ 2 คำ คือ information" (ข้อมูล) และ "epidemic" (โรคระบาด) ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ปริมาณข่าวที่มากเกินไป แต่ยังรวมถึงความเร็ว ความซ้ำซาก และความคลุมเครือของข่าวที่สร้างความเครียดอย่างต่อเนื่อง

ข่าวสุขภาพ

เรื่องควรรู้ ! ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ปี 2025 
เรื่องควรรู้ ! ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ปี 2025 

โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) โดยสายพันธุ์ A และ B เป็นสาเหตุหลักของการระบาดในมนุษย์ ความสามารถในการกลายพันธุ์ของไวรัสเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนบนพื้นผิวไวรัส Hemagglutinin (H) และ Neuraminidase (N) ส่งผลให้เกิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ๆ อยู่เสมอ การระบุชนิดย่อยของเชื้อ เช่น H1N1 หรือ H3N2 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการติดตามการระบาดและพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ